โอทอป สินค้าชุมชน
สถานที่ท่องเที่ยว
กระดานเสวนา
ติดต่อ-สอบถาม
มาตรฐานตำแหน่ง
E-service
ร้องเรียนการทุจริตประพฤติมิชอบ
เจตจำนงสุจริต
ข้อบัญญัติ
กฎหมาย/ระเบียบ
คู่มือปฏิบัติงาน
คู่มือบริการประชาชน
หน้าหลัก
Home
ข้อมูลทั่วไป
Information
บุคลากร
Personnel
แผนพัฒนา
Plan
งานการคลัง
Finance
รายงาน
Report
ศูนย์ข้อมูล
Data Center
 
  องค์การบริหารส่วนตำบลกุดตุ้ม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ :www.kodtum.go.th
 
 



สถานที่ท่องเที่ยว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ประวัติตีคลีไฟ

บ้านหนองเขื่อง ตำบลกุดตุ้ม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ

----------------------------------------------------

          คลีไฟ  (KLEE-FIRE) เป็นการละเล่นที่แปลกและท้าท้าย ซึ่งหาดูได้ยากมากและจะมีแห่งเดียวในเมืองไทยเหมือน ๆ กับ “ทุ่งดอกกระเจียว” อันลือชื่อซึ่งจะมีให้พี่น้องชาวจังหวัดชัยภูมิได้ภาคภูมิใจตลอดว่าที่อื่นในโลกนี้ แม้จะมีบ้างแต่ไม่สวยเท่าดอกกระเจียวบ้านฉัน เช่นกัน

          ประวัติคลีไฟ  เท่าที่จำความได้ตามที่ผู้เฒ่าท่านได้เล่าให้ฟังมา  ณ  หมู่บ้านหนองเขื่อง  ตำบลกุดตุ้ม  อำเภอเมืองชัยภูมิ  จังหวัดชัยภูมิ  การเล่นคลีไฟ  เริ่มต้นมีมาตั้งแต่ปี 2489  ซึ่งแรกเริ่มการเล่นเรียกว่า  “คลีโหล๋น”  โดยการเล่นมีวิธีเล่นที่ง่าย  โดยแข่งขันกันตีคลีไกล ใครมีความสามารถตีได้ไกลเป็นผู้ชนะ  ต่อมาจึงมีการเปลี่ยนจากการตีไกลมาเป็นการแข่งขันแบบเป็นทีม  “แล้วคลีไฟหล่ะมายังไง”

          เมื่อก่อน  ระบบความสะดวกสบายด้านสาธารณูปโภคยังไม่มี  เช่น  ไฟฟ้า,น้ำประปา รวมถึงความสะดวกสบายด้านการเดินทางด้วยนั้นแหละ คนสมัยก่อนการไปอาบน้ำชำระร่างกายจะชักชวนกันไปยังท่าน้ำ (ห้วย,หนอง,คลอง,บึง)  ซึ่งจะมีกอไผ่ขึ้นเรียงรายตามแหล่งน้ำเพราะไม้ไผ่มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตคนชนบทอย่างยิ่งเลยหล่ะ  โดยเฉพาะในช่วงเย็น (ตอนเช้าไม่ค่อยจะได้อาบน้ำหรอกนะ)  จะไปกันเป็นกลุ่ม สวมผ้าโสร่ง ผ้าขาวม้าพาดไหล่ (ผ้าเช็ดตัว)  สูบยาสูนมวนใหญ่ ๆ (เมื่อก่อนเรียกว่าบุหรี่(ยาสูบ) เป็นยาเสพติดไม่รู้จักหรอก)  เพราะจะสูบกันเกือบทุกคน  ก็เลยคิดสนุกเพื่อเป็นการเรียกเหงื่อ  ก่อนอาบน้ำ  แบ่งทีมกันเล่น (คลีโหล๋น)  ดีกว่า ! อ้าวไอ้ทิดจะค่ำแล้ว  เองไปก่อกองไฟไว้ก่อนแล้วค่อยมาเล่น  เดี๋ยวค่ำลงอากาศมันจะหนาว  ความสนุกสนานกับการใช้เหง้าไม้ไผ่เป็นอุปกรณ์  ตีก้อนไม้ขนาด 10 – 15 cm ไปยังเขตฝ่ายตรงกันข้ามแล้วเข้ากรอบที่กำหนด (ประตู)  ของฝ่ายตรงกันข้าม (คล้ายกีฬาฮอกกี้)  ช่างมีความสุขจริงๆ เลยนะ

          บังเอิ้ญ  บังเอิญ  ลูกไม้กลิ้งเข้าไปในกองไฟ กว่าจะเขี่ยมันออกมาได้มันก็ติดไฟไปแล้ว  ความรู้สึกในอารมณ์ที่กำลังสนุกต่อเนื่อง  เลยไม่ยอมดับไฟที่กำลังลุกไหม้ ก้อนไม้  ก็เลยปล่อยเลยตามเลย  และแล้วความคิดความคิดใหม่ ๆ กับการเล่น  “คลีโหล๋น”  จึงเกิดขึ้น  ทุกเย็นของการมาอาบน้ำของกลุ่มชาวบ้านหนองเขื่องจะเล่น  “คลีโหล๋น”  พอค่ำลงมองไม่เห็นลูกไม้ จึงนำไฟมาจุดลูกไม้  เพื่อการมองเห็น  จึงเล่นหรือแข่งขันกันต่อได้ในช่วงค่ำ  มันสร้างความสนุกสนานเร้าใจกว่าการเล่น  “คลีโหล๋น”  แบบเดิม ๆ จึงเป็นที่มาของการเรียกชื่อ  คลีไฟ (KLEE-FIRE) ชาวบ้านหนองเขื่อง ได้กลับมาเล่นคลีไฟอีกครั้งเมื่อ 6-7 ปี ที่ผ่านมา และจะถือว่าเป็นกีฬาพื้นบ้านที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ และสืบทอดเป็นประเพณีตลอดไป

          ซึ่งชาวบ้านหนองเขื่องจะจัดกิจกรรมการเล่นปีละ 1 ครั้งในช่วง “งานลอยกระทง”  ของทุกปีในช่วงเช้าจะมี การแข่งขันปล่อยโคมไฟ, การแข่งขันเรือพาย ประเภท 5 ฝีพาย, การจัดนิทรรศการและประกวดไม้คลี – ลูกคลีไฟ, การแข่งขันตีคลีไฟของกลุ่มเยาวชนตำบลกุดตุ้ม, การแข่งขันตีคลีไฟของกลุ่มแม่บ้านตำบลกุดตุ้ม, การแข่งขัน ฮูลาฮูป, การแข่งขันตีคลีไฟลอดบ่วงและการแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ฯลฯ และในช่วงเย็น (ประมาณ  18.00 น.)  จะทำการแข่งขันการตีคลีไฟ 7 คน (KLEE-FIRE) เป็นประจำทุกปี 

สอบถามข้อมูลได้ที่ อบต.กุดตุ้ม 044-885059

 

----------------------------

 

    กติกาการเล่น  “คลีไฟ”  (KLEE-FIRE)

 

บ้านหนองเขื่อง ตำบลกุดตุ้ม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ

---------------------------------------------------------------------

 

  1.  อุปกรณ์การเล่น
    1. เหง้าไม้ไผ่ (ลักษณะแบบตะขอ)  ยาวประมาณ  1 เมตร  หรือความยาวพอเหมาะกับผู้ใช้ไม้นั้น ๆ  เพื่อใช้เป็นไม้ตี
    2. ลูกไม้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางระหว่าง  10 – 15  เซนติเมตร  และต้องเป็นไม้นุ่น (งิ้ว)  หรือไม้จากต้นทองหลาง  เนื่องจากมีน้ำหนักเบา
  2.  สนามแข่งขัน  ใช้สนามสี่เหลี่ยมผืนผ้า  ขนาดเท่าสนามฟุตบอล  โดยสนามจะใหญ่หรือเล็กขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เล่น  เช่น  จำนวนผู้เล่นฝ่ายละ 11 คน ใช้สนามฟุตบอลขนาดผู้เล่นฝ่ายละ  11 คน  หรือจำนวนผู้เล่นฝ่ายละ  7 คน  ใช้สนามฟุตบอลขนาดผู้เล่นฝ่ายละ 7 คน (ฟุตซอล)
  3. จำนวนผู้เล่น  แบ่งเป็น  2 ฝ่าย  ๆ ละ  11 คน  หรือ  7 คน  หรือตามความเหมาะสม
  •  ลักษณะการเล่น  จะต้องตีลูกไม้ที่ติดไฟส่งต่อกันไปเข้าประตูฝ่ายตรงข้าม หากเข้าประตูจะถือเป็นคะแนนได้  1  ประตู  (หลักการเดียวกันกับฮอกกี้  และกีฬาฟุตบอล)  โดยมีผู้ป้องกันยืนอยู่ที่ประตู  ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามดีลูกไฟเข้าประตู
  • ผู้เล่นจะตีลูกไฟได้  โดยไม้ที่ตีจะต้องไม่เกินระดับเอว  หากตีสูงเกินกว่านี้จะถือเป็นการผิดกติกา  ฝ่ายตรงข้ามจะได้ตั้งลูกเล่น  ณ  จุดที่ทำผิดกติกา
  • ผู้ใดที่ตีลูกออกนอกเขตสนาม  ฝ่ายตรงข้ามจะนำลูกไฟ  บนเส้น  ณ  จุดที่ออก  แล้วเล่นต่อ (เหมือนการเล่นกีฬาฟุตซอล)
  • ผู้เล่นจะใช้อวัยวะส่วนใดของร่างกายเล่นไม่ได้  จะถือว่าเล่นผิดกติกา  ยกเว้นผู้เล่นที่ทำหน้าที่รักษาประตู  ทุกส่วนของร่างกายใช้ถูกลูกหรือเล่นลูกได้
  1.  การเริ่มเล่น หรือแข่งขัน  ผู้เล่นฝ่ายละ  1  คน  พร้อมกันที่เส้นแบ่งครึ่งสนาม (กลางสนามแข่งขัน  จะใช้ไม้เคาะที่พื้น  สลับกับเตาะไม้ฝ่ายตรงข้าม  จำนวน  3  ครั้ง  (รวมจำนวนเคาะทั้งหมด  6 ครั้ง)
  2. เวลาที่ใช้ในการแข่งขัน  แบ่งเวลาการแข่งขันออกเป็น  2  ช่วง ๆ ละ  15 นาที  มีเวลาพักครึ่งไม่เกิน  10  นาที

 

 

                                                                                                                                                                                    

 

                                                                                                                                                                          

สอบถามข้อมูลได้ที่ อบต.กุดตุ้ม 044-885059

- จำนวนผู้เข้าชม จำนวน 1220697 คน ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฏาคม 2561 - ปัจจุบัน